วันพฤหัสบดีที่ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2555

รีวิว Samsung Galaxy Note II

มือถือตัวนี้คือ Galaxy Note II N7100 รุ่นที่ขายในไทย ซึ่งซัมซุงประเทศไทยให้ผมยืมเครื่องมาทดสอบประมาณหนึ่งสัปดาห์ สเปกคงหาอ่านกันเองได้ไม่ยากตามเคย และ Note II นี้ชาวบ้านเขารีวิวกันไปเยอะแล้ว ดังนั้นรีวิวชิ้นนี้คงไม่ต้องเกริ่นกันมาก เน้นแต่ประเด็นสำคัญเท่านั้นนะครับ
หมายเหตุ: ซัมซุงลงโฆษณา Note II ใน Blognone เป็นแบนเนอร์ แต่รีวิวนี้ไม่เกี่ยวข้องใดๆ กับโฆษณาของซัมซุงครับ
Blognone on Galaxy Note 2

ฮาร์ดแวร์และรูปลักษณ์ภายนอก

นับตั้งแต่ Galaxy S III เป็นต้นมา จะเห็นว่าซัมซุงหันมาใช้แนวทางการออกแบบของ S III กับมือถือที่ออกมาหลังจากนั้นด้วย ซึ่ง Note II ก็เป็นหนึ่งในมือถือที่ได้รับอิทธิพลมาจาก S III อย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นการใช้พลาสติกสีขาว ขอบโค้ง ฝาหลังบาง เป็นต้น
สิ่งสำคัญที่ต่างไปคงเป็นเรื่องขนาดที่ใช้หน้าจอใหญ่ถึง 5.5" ความละเอียด 1280x720 ซึ่งในแง่การใช้งานคงไม่ต่างกับ Note รุ่นแรกมาก แต่ถ้าเทียบกับสมาร์ทโฟนรุ่นอื่นๆ ในท้องตลาด คงต่างกันอยู่เยอะ
เรื่องมือถือจอเล็กหรือใหญ่คงขึ้นอยู่กับความชอบและสไตล์การใช้งานส่วนบุคคล สำหรับผมแล้วต้องอ่านข่าว-บทความเยอะ (ผ่านเว็บและแอพอย่าง Pulse หรือ Pocket) การได้มือถือจอใหญ่ๆ จึงมีประโยชน์กับการอ่านมาก แต่แน่นอนว่ามันมีปัญหาบ้างในการเอื้อมมือไปกดปุ่มที่อยู่ไกลๆ เวลาที่เราใช้งานมือถือด้วยมือเพียงข้างเดียว (แล้วใช้นิ้วโป้งกด) ตัวอย่างเช่น การถือ Note II ด้วยมือซ้าย (จับที่มุมซ้ายล่าง) แล้วไม่สามารถกดปุ่ม Tweet ที่อยู่มุมขวาบนของแอพ Twitter ได้
Galaxy Note 2
ที่ต้องบอกว่า "มีปัญหาบ้าง" เพราะปัญหานี้ไม่ได้เกิดตลอดเวลา และเกิดเฉพาะกับแอพบางตัวเท่านั้น ซึ่งแอพแอนดรอยด์โดยส่วนใหญ่ไม่ค่อยมีปุ่มควบคุมที่มุมด้านซ้ายบนหรือขวาบนมากนัก โดยรวมแล้วถามว่ารำคาญไหม ก็คงตอบว่ารำคาญบ้าง แต่เป็นปัญหาถึงขั้นใช้งานไม่ได้เลยไหมก็ยังห่างไกลกับคำนี้อีกมาก เมื่อแลกกับจอใหญ่ขึ้น อ่านหนังสือง่ายขึ้น ผมว่าคุ้มอยู่
ส่วนเรื่องการพกพานี่ไม่มีปัญหาเลยครับ ผมสามารถใส่ในกระเป๋ากางเกงได้ตามปกติ เฉกเช่นกับสมาร์ทโฟนทั่วไป
Galaxy Note 2 - S-Pen
นอกจากเรื่องขนาดแล้ว สิ่งที่เพิ่มเข้ามาก็แน่นอนว่าเป็นปากกาสไตลัส หรือที่ซัมซุงเรียก S Pen ซึ่งปักอยู่ด้านหลังค่อนไปทางซ้ายมือ ตามภาพ
เมื่อเราดันปากกาออกมาเพียงนิดเดียว Note จะขึ้นเตือนว่าตอนนี้ปากกาถูกถอดออกจากที่เก็บใน notification ของระบบ (ขึ้นค้างไว้จนกว่าจะเสียบกลับคืน) และเข้าโหมดพร้อมสำหรับใช้งานด้วยปากกาในทันที (จะกล่าวต่อไป) น่าจะช่วยลดปัญหาเรื่องการลืมปากกาทิ้งไว้ได้บ้าง
Galaxy Note 2
พอร์ตเชื่อมต่อของ Note II มีน้อยมากๆ เพียงแค่ช่องเสียบ Micro USB กับช่องเสียบหูฟังเท่านั้น กล้องและแฟลชก็ออกแบบเรียบง่าย ไม่มีอะไรพิเศษ ปุ่มอื่นๆ รอบตัวเครื่องมีแค่ปุ่มปรับระดับเสียง (ฝั่งซ้าย) และปุ่ม power (ฝั่งขวา) เท่านั้น ปุ่มด้านหน้าก็ใช้ 3 ปุ่มมาตรฐานของซัมซุงคือ Menu/Home/Back ตามปกติ
Galaxy Note 2 Inside
ฝาหลังของตัวเครื่องเป็นพลาสติกธรรมดา แกะและประกอบคืนยากเล็กน้อย (แต่ไม่ยากจนเกินไป) ข้างในแปะ NFC ส่วนอุปกรณ์อื่นๆ ก็มาตรฐานคือแบตเตอรี่ขนาด 3,100 mAh และช่องเสียบ MicroSIM/MicroSD

กล้อง

กล้องของ Note II น่าจะเป็นกล้องมือถือรุ่นท็อปๆ ในตลาดตอนนี้ ถ่ายสวยในสภาพแสงน้อย ลูกเล่นในแอพกล้องเยอะ (แต่กดเข้าโหมด Macro ยากไปหน่อย น่าจะกดง่ายกว่านี้) ที่เหลือดูกันเองตามภาพตัวอย่าง ผมลองถ่ายมาหลายๆ สภาพแสงให้ดูกันครับ

ซอฟต์แวร์และการใช้งาน

ตัวระบบปฏิบัติการเป็นแอนดรอยด์ 4.1 พร้อม TouchWiz ในแง่การใช้งานคงไม่ต่างอะไรจากระบบปฏิบัติการของ S III มากนัก ฟีเจอร์ส่วนใหญ่เหมือนกันหมด ไม่ว่าจะเป็น S Voice, Smart Stay, S Beam ตรงนี้คงไม่ต้องเขียนถึงให้ซ้ำซากนะครับ
การที่มันเป็นระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ 4.1 ทำให้มีฟีเจอร์ Google Now ติดมาด้วย กลายเป็นว่ามือถือของเรามีระบบสั่งงานด้วยเสียงพร้อมกัน 2 ตัวคือ S Voice กับ Google Now ซึ่งเลือกใช้งานได้ตามใจชอบ (กดปุ่ม Home สองทีเข้า S Voice ถ้าอยากใช้ Google Now ต้องใช้ผ่านวิดเจ็ตของกูเกิลเท่านั้น)

ผมวัดคะแนน Quadrant ได้ 5811 คะแนน โดยรวมแล้วใช้งานได้ดีมาก เร็ว ลื่น ตอบสนองรวดเร็ว แบตอึด ที่พบปัญหามีอย่างเดียวคือแอพ Gallery ของซัมซุงทำงานช้ามากกว่าจะโหลดรูปภาพ thumbnail ขึ้นครบ (ทั้งที่รูปมีไม่ถึง 100 รูป) คิดว่าคงเป็นปัญหาเรื่องซอฟต์แวร์มีบั๊กด้วยส่วนหนึ่ง
สรุปแล้ว Galaxy Note II ในฐานะ "มือถือจอสัมผัสที่สั่งงานด้วยนิ้ว" ทำออกมาได้น่าประทับใจ สเปกแรงที่สุดในท้องตลาดขณะนี้ แบตให้มาเยอะจนไม่ต้องกังวลใจเรื่องการชาร์จ จะมีปัญหาก็ตรงที่จอมันใหญ่จนเอื้อมไม่ถึงในบางครั้งเท่านั้น
หมายเหตุ: Note II ได้อัพเกรดเป็นเฟิร์มแวร์ตัวใหม่ที่เปิดสองแอพพร้อมกันแบบแบ่งครึ่งจอได้ แต่เครื่องรีวิวที่ผมได้มามันไม่ยอมอัพเดตให้ เลยขอข้ามการรีวิวฟีเจอร์นี้ไปครับ

S Pen

แต่ Note II ไม่ได้ถูกออกแบบมาให้สั่งงานด้วยนิ้วเพียงอย่างเดียว เพราะจุดขายหลักของมันอยู่ที่ปากกา S Pen นั่นเอง ดังนั้นผมจะพูดถึงตรงนี้เยอะหน่อยนะครับ

เมื่อเราดึงปากกา S Pen ออกมาจากช่อง หน้าจอของ Note II จะเข้าโหมด S Pen โดยเพิ่ม homescreen พิเศษขึ้นมาอีก 1 หน้า (สังเกตตรงเม็ดกลมๆ เล็กๆ ที่บอกตำแหน่งของ homescreen ว่ามันเป็นรูปปากกา อยู่มุมขวาสุด)
หน้าจอนี้ประกอบด้วยวิดเจ็ตสำหรับแอพ S Note ซึ่งเป็นจุดขายหลักของ Note และเปลี่ยนไอคอนของแอพใน launcher ด้านล่างให้เป็นแอพที่เหมาะสำหรับจอสัมผัสให้ด้วย
ส่วนหน้าจอ notification ก็จะเปลี่ยนไอคอนของแอพให้เหมาะกับ S Pen เช่นกัน รวมแล้วถือว่าซัมซุงเชื่อมระบบของ S Pen เข้ากับหน้าจอหลักของแอนดรอยด์ได้ค่อนข้างดี

จุดขายหลักของ Note II คือแอพ S Note สำหรับจดบันทึกข้อมูลสารพัดชนิด ไม่ว่าจะเป็นลายมือ ตัวอักษรที่แปลงจากลายมือ ภาพบนหน้าจอ ภาพหรือเว็บจากเน็ต รวมถึงบันทึกเสียงได้ด้วย ตรงนี้หลายคนคงเห็นจากโฆษณาของ Note รุ่นต่างๆ ที่ประชาสัมพันธ์อยู่แล้ว
จากการใช้งาน ในแง่ฟีเจอร์ผมคิดว่าไม่มีปัญหาใดๆ ทำได้เยอะจริงตามโฆษณา แต่อุปสรรคในการใช้งานคือโปรแกรมมันทำได้เยอะเกินจนงงครับ ลองดูภาพหน้าจอประกอบ จะเห็นว่ามันมีปุ่มเยอะแยะเต็มไปหมดจนเราไม่รู้ว่าจะเลือกใช้ความสามารถอะไรดี
มันไม่เหมือนกับโปรแกรมของแอปเปิลหรือกูเกิลที่ทำออกมาได้เรียบง่ายและลงตัวมากกว่า นี่คงเป็นปัญหาของซัมซุงที่ยังทำการบ้านเรื่องซอฟต์แวร์ได้ไม่ดีเท่าไรนัก ในแง่ความสามารถสอบผ่าน แต่กว่าจะเข้าถึงความสามารถทั้งหมดที่มียังไม่ดีเท่า

ปัญหาอีกประการหนึ่งที่พบกับ Note II คือโปรแกรมที่รองรับการใช้ S Pen ยังมีไม่เยอะนัก (สามารถโหลดได้จาก Samsung Apps แต่ที่ให้มากับเครื่องมีแค่ S Note กับ S Planner)
นอกจากนี้ งานบางอย่างที่ควรจะใช้กับ S Pen ได้ง่าย เช่น ถ่ายภาพแล้วเขียนข้อความลงบนภาพ กลับกลายเป็นเรื่องยากเกินความจำเป็น เพราะเราต้องสั่ง edit รูปภาพก่อนหนึ่งครั้ง แถมในครั้งแรกมันจะเตือนให้เราติดตั้งโปรแกรม Photo Editor ที่ไม่ได้มาพร้อมกับเครื่องอีกด้วย (ซะงั้น) ตัวโปรแกรม Photo Editor ก็เข้าถึงฟีเจอร์วาดเส้นได้ยาก ต้องกดเข้าไปลึกมาก เป็นต้น
แอพของซัมซุงที่มากับระบบ รองรับการใช้ปากกา S Pen อยู่เงียบๆ เช่น S Voice สามารถเขียนข้อความแทนการสั่งงานด้วยเสียงได้ (มีปุ่มปากกาอันเล็กๆ ให้กด)

      ประเด็นเรื่องการแยกแยะลายมือ ภาษาอังกฤษทำได้ยอดเยี่ยมมากจนแทบไม่ผิดเลย (มีสองโหมดคือโหมดปกติ กับ full mode ในภาพเป็น full mode) ส่วนภาษาไทยสามารถใช้ได้แต่โหมดปกติ ยังไม่รองรับในโหมด full และโดยรวมแล้วยังแยกแยะตัวอักษรภาษาไทยได้ไม่แม่นยำนัก
      อีกประเด็นหนึ่งที่คนไม่พูดถึงกันนัก คือการใช้ S Pen แทนนิ้วสำหรับการสั่งงานทั่วไปที่ไม่เกี่ยวกับลายมือ (ใช้ปากกาจิ้มจอเหมือนสมัย Windows Mobile) ผมพบว่าโดยทั่วไปทำงานได้ดี ซัมซุงออกแบบให้เราใช้ gesture แทนการกดปุ่ม เช่น กดปุ่มบนปากกาพร้อมวาดลูกศรชี้ไปทางซ้ายแทนการใช้ปุ่ม Back หรือกดปุ่มบนปากกาแล้วจิ้มจอค้างไว้เพื่อจับภาพหน้าจอ เป็นต้น
      ปัญหาคือ ซัมซุงดันไม่ทำ gesture สำหรับปุ่ม Home ครับ นั่นแปลว่าถ้าผมอยากใช้ปากกาจิ้มจอแทนนิ้ว อ่านเว็บหรือเข้าเฟซบุ๊ก ผมสามารถทำงานเกือบทุกอย่างด้วยปากกาได้ ยกเว้นการกลับหน้า Home ที่ต้องละมือจากปากกามากดปุ่ม Home บนตัวเครื่องนั่นเอง (ซึ่งปัญหาพวกนี้จะแก้ไขได้ทันที ถ้าซัมซุงเปลี่ยนมาใช้ปุ่มเสมือนบนหน้าจอแบบที่กูเกิลทำกับตระกูล Nexus)
      จากภาพข้างบนเป็นคำสั่ง Quick Command โดยเราต้องกดปุ่มบนปากกาแล้วลากเส้นขึ้นไปด้านบน จะพบกับหน้าจอที่ให้เราวาด gesture เพื่อสั่งงานที่ซับซ้อนมากขึ้น เช่น เขียนเครื่องหมายคำถามพร้อมด้วยคำที่ต้องการ เพื่อค้นคำนี้ในกูเกิล เป็นต้น (ผมว่ามันควรจะเขียนลงไปบนหน้าจอได้เลย ไม่ต้องเปิดหน้า Quick Command ก่อน)

อีกจุดที่รู้สึกว่าเป็นปัญหาเล็กน้อยคือ หน้าจอ Settings ส่วนของซัมซุงค่อนข้างซับซ้อนและตัวเลือกเยอะมากจนงง ทั้งส่วนของการตั้งค่าปากกา S Pen เอง หรือส่วนของการตั้งค่าฟีเจอร์อื่นๆ เช่น Motion ซึ่งหลายอย่างผมคิดว่าบังคับมาให้เลยก็ได้ ไม่ต้องมีตัวเลือกให้รกและงงเปล่าๆ

สรุป

       Galaxy Note II ถือเป็นมือถือที่ผมใช้แล้วชอบมากอีกตัวหนึ่ง จอใหญ่ จอสวย ลื่น เร็ว (ใครเคยฝังใจกับแอนดรอยด์กระตุกๆ แนะนำให้ลองมาเล่นตัวนี้ดู) แบตอึด ฟีเจอร์ครบครัน
      ส่วนเรื่อง ปากกา  S Pen ก็มีฟีเจอร์เยอะเท่าที่ซัมซุงสามารถทำได้ แต่เนื่องจากว่ามันเป็นซอฟต์แวร์ที่ซัมซุงเขียนเพิ่มเข้ามาเอง เลยรู้สึกว่ามันยังไม่เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันกับแอนดรอยด์เท่าไรนัก (แต่ก็ไม่ได้เป็นปัญหากับการใช้งานนะ)ผมคิดว่าถ้ากูเกิลเปิดให้ซัมซุงเข้าไปช่วยพัฒนาแอนดรอยด์ให้รองรับการ ใช้งานสไตลัสมากกว่านี้ มันจะกลายเป็นแพลตฟอร์มที่น่ากลัวมากๆ เลยทีเดียว
      ราคาของ Note II อาจดูแพงเป็นพิเศษเมื่อเทียบกับมือถือแอนดรอยด์ตัวอื่นๆ แต่เทียบกับ S III แล้วต่างกันไม่มาก เมื่อเทียบกับสเปกโดยรวมที่ใกล้เคียงกัน (อยู่บนฐานฮาร์ดแวร์เดียวกัน) ถ้าเงินถึงอยู่แล้ว การจะเลือก S III หรือ Note II น่าจะตัดสินกันที่ขนาดของหน้าจอว่ารับได้ที่ขนาดใหญ่แค่ไหน มากกว่าเรื่องปากกาที่เป็นของแถมเพิ่มเข้ามา
      ปากกา S Pen เป็นเหมือนกับอุปกรณ์เสริมที่ช่วยให้การจดโน้ตทำได้สะดวกขึ้น แต่ในการใช้งานจริง (หมดช่วงเห่อแล้ว) ผมพบว่าไม่ค่อยได้หยิบปากกาออกมาใช้งานเยอะอย่างที่คิดในตอนแรก
       โดยสรุปแล้วคือ ถ้าอยากซื้อมือถือแอนดรอยด์รุ่นท็อปที่สุดในขณะนี้ Note II คงเป็นตัวเลือกที่โดดเด่นตัวเดียว ไปจนกว่ากองทัพมือถือชุดใหม่จะเปิดตัวในงาน CES 2013 ต้นปีหน้าครับ
 

แอนดรอยด์ 4.1 Jelly Bean เร็วขึ้น ลื่นขึ้น ระบบสั่งด้วยเสียงใหม่ คีย์บอร์ดไทย

Jelly Bean

   เป็นไปตามความคาดหมาย หลังจากที่มีข่าวว่ากูเกิลจะเปิดตัวระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์รุ่นใหม่ในรหัส 4.1 โค้ดเนม Jelly Bean คีย์โน้ตในงาน Google I/O ได้เปิดตัว Jelly Bean อย่างเป็นทางการพร้อมกับเผยฟีเจอร์ทั้งหมดที่เพิ่มขึ้นมาแล้ว
สิ่งที่กูเกิลพูดถึงเป็นอย่างแรกสุดของ Jelly Bean คือการพัฒนาแอนดรอยด์ที่ถูกล้อมานานว่าเป็นระบบปฏิบัติการอืดๆ ให้ลื่นไหลกว่าที่เคยเป็นด้วย Project Butter
Project Butter ประกอบด้วยฟีเจอร์ที่ช่วยให้การใช้งานแอนดรอยด์นั้นลื่นไหลอย่างที่ควรจะเป็นด้วยการขยายการล็อกเฟรมเรต vsync ไปทั้งแอนดรอยด์ ให้การใช้งานลื่นไหลอย่างต่อเนื่องกันทั้งระบบ พร้อมเพิ่มท่อบัฟเฟอสำหรับการประมวลผลกราฟิกเป็นสามเท่าตัว เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพกราฟิกโดยตรง สิ่งที่เห็นได้ชัดคืออินเทอร์เฟซที่ไว ลื่นไหล ตอบสนองการใช้งานดีขึ้น

 
 

ปรับปรุงฟีเจอร์ของแอนดรอยด์
  • ระบบจัดการวิดเจ็ตใหม่ ที่สามารถย่อขยายวิดเจ็ตทับไอคอนอื่นได้ โดยระบบจะย้ายไอคอนหลบให้เอง หรือย่อขนาดวิดเจ็ตอัตโนมัติถ้าพื้นที่มีไม่พอ
  • คีย์บอร์ดของ Jelly Bean สามารถคาดเดาคำถัดไปที่เราจะพิมพ์ได้แล้ว (Predictive Keyboard) ถ้านึกภาพไม่ออก ให้นึกถึง SwiftKey
  • Offine Voice Typing พิมพ์ข้อความด้วยเสียงโดยไม่ต้องต่ออินเทอร์เน็ตได้แล้ว
  • เพิ่มคีย์บอร์ดมาอีกหลายภาษา และมีภาษาไทยมาด้วย! (น้ำตาจะไหล) 
  • รองรับการอินพุทข้อมูลจากภาษาเบรลล์ (ตัวอักษรสำหรับผู้พิการทางสายตา)
  • อินเทอร์เฟซกล้องใหม่ที่สามารถปัดไปทางซ้าย เพื่อเข้าไปดูภาพก่อนหน้าได้
  • เพิ่มความสามารถ Android Beam ให้สามารถแพร์อุปกรณ์ไร้สายที่ใช้บลูทูธ ด้วย NFC ได้ด้วยการแตะกับตัวเครื่อง
  • ปรับปรุง notification ให้แสดงผลได้มากขึ้น สามารถกดไลค์เฟซบุ๊ก กด +1 Google+ หรือยัด Pulse เข้าไปไว้ใน notification bar ได้ (หรือนี่คือมิติใหม่ของการทำแอพ ?)
ระบบค้นหาปรับปรุงใหม่ คอร์หลักของกูเกิลแต่ดั้งเดิม ทำให้ดีขึ้นกว่าที่เคยเป็นอีกขั้น
  • ระบบค้นหาใหม่ที่ใช้ Knowledge Graph ช่วยจัดข้อมูลให้เข้าใจง่ายยิ่งขึ้น แสดงผลข้อมูลตามประเภทของข้อมูลที่ต่างกันไป


 
  • ระบบค้นหาด้วยเสียงใหม่ อารมณ์เหมือนกับ Siri, S Voice


 
  • Google Now ระบบที่เหนือขึ้นไปกว่าการแค่ตอบคำถามด้วยการบอกสิ่งที่ผู้ใช้ต้องการด้วยข้อมูลของผู้ใช้เอง เช่น  บอกข้อมูลจราจรในยามเช้าของการทำงาน บอกสายรถเมล์ แนะนำร้านกาแฟ สายการบิน และแจ้งเตือนนัดหมาย ฯลฯ


 
แอนดรอยด์ Jelly Bean ปล่อยอัพเดตให้กับ Galaxy Nexus, Nexus S และ Motorola XOOM ช่วงกลางเดือนกรกฎาคมนี้ครับ ใครถืออยู่ก็เตรียมรับ OTA ได้เลย
ส่วนที่เหลือเป็นของนักพัฒนาครับ อย่างแรกคือ SDK ของ Jelly Bean นั้นปล่อยให้โหลดได้แล้ววันนี้ (ยังเป็นตัว preview อยู่)
อีกอย่างที่น่าสนใจคือ กูเกิลได้ปล่อย PDK (Platform Developer Kit) เครื่องมือสำหรับช่วยผู้ผลิตฮาร์ดแวร์พอร์ตแอนดรอยด์ให้ทำงานร่วมกับฮาร์ดแวร์ได้ง่ายขึ้น ซึ่งจะเปิดให้พาร์ทเนอร์ได้ใช้ก่อนแอนดรอยด์รุ่นใหม่จะเปิดตัวราว 2-3 เดือนครับ
กูเกิลบอกว่า PDK ของ Jelly Bean ถูกส่งให้กับพาร์ทเนอร์หลายรายแล้ว แปลว่าอัพเดตครั้งใหม่นี้น่าจะไม่ใช้เวลานานแล้วล่ะ (มั้ง)
ข่าวดีอีกเรื่องคือ C2DM (Android Cloud to Device Messaging) ถูกเปลี่ยนชื่อเป็น GCM (Google Cloud Messaging for Android) และเปิดให้ใช้งานได้ฟรีแล้ว
ปิดท้ายกันด้วยสถิติเล็กๆ ของแอนดรอยด์ระหว่างคีย์โน้ตด้วยยอดเปิดเครื่องที่เพิ่มขึ้นไปเป็น 1 ล้านเครื่องต่อวันแล้ว เพิ่มขึ้นจากงานเมื่อปีที่แล้วที่มีเพียง 400,000 เครื่องเท่านั้น

 
 http://www.blognone.com/node/33704

Nexus นวัตกรรมจาก Google พร้อมใช้ใน 3 ขนาดเเล้ว

 

     คนเราเดี๋ยวนี้มีอุปกรณ์โมบายส์มากกว่าหนึ่งชิ้นกันเเล้ว และก็สลับใช้ไปมาอยู่ตลอดเวลา Nexus คือ ผลิตภัณฑ์ฮาร์ดเเวร์ของ Google สำหรับเป็นอุปกรณ์ที่รองรับระบบปฎิบัติการแอนดรอยด์ โดยขจัดความยุ่งยากทั้งหมดทั้งมวลออกไป เพียงเเค่คุณลงชื่อเข้าใช้จากบัญชี Gmail ทุกสิ่งก็พร้อมใช้งาน ไม่ว่าจะกำลังใช้งาน รูปภาพ อีเมล์ รายชื่อผู้ติดต่อ บุ๊คมาร์ค หรือเเม้แต่ความบันเทิงใน Google Play วันนี้ เรายินดีเป็นอย่างยิ่งในการแนะนำ 3 ผลิตภัณฑ์ใหม่ในตระกูล Nexus ในรุ่นแบบเล็กจิ๋ว รุ่นปานกลาง และรุ่นพี่ใหญ่บึ้ม ซึ่งทั้ง 3 อุปกรณ์ทำงานบนระบบปฏิบัติการณ์แอนดรอยด์ 4.2 ใหม่ Jelly Bean ที่มาพร้อมกับ Google Now เวอร์ชั่นล่าสุด และฟีเจอร์ที่น่าสนใจอีกมากมาย



Nexus 4 ที่มาพร้อมกับ Google Now และ Photo Sphere
  

Nexus 4 คือ สมาร์ทโฟนรุ่นล่าสุดของเรา ที่พัฒนาร่วมกันกับบริษัท LG มันทำงานได้อย่างรวดเร็วด้วยประสิทธิภาพจากชิป Quad-core มีหน้าจอขนาด 4.7 นิ้ว ความละเอียดที่ 320 พิกเซลต่อนิ้ว (PPI) มอบประสบการณ์การรับชมที่ยอดเยี่ยมไม่ว่าจะเป็นรูปภาพหรือวิดีโอบน YouTube และการชาร์จแบตในแบบไร้สายเพียงแค่คุณวางโทรศัพท์ลงบนแท่นชาร์จเท่านั้น ไม่ต้องต่อสายใดๆ ให้ยุ่งยาก

Nexus คือผลิตภัณฑ์ที่มีประสิทธิภาพอย่างครบครัน มาพร้อมฟีเจอร์ใหม่ล่าสุดของระบบปฏิบัติการ แอนดรอยด์ 4.2 Jelly Bean ซึ่งยังเป็นเวอร์ชั่นที่ใช้งานง่ายและมีความอัจฉริยะมากที่สุดอีกด้วย 

เริ่มด้วยกล้องถ่ายรูป ที่เรามีการปรับโฉมการทำงานใหม่เพื่อประสบการณ์เกี่ยวกับรูป ด้วยฟีเจอร์ Photo Sphere ที่จะทำให้กล้องถ่ายรูปบนโทรศัพท์มือถือสามารถถ่ายภาพได้ในมุมกว้างพิเศษ ได้ในทุกทิศทาง สร้างประสบการณ์การเก็บภาพพาโนรามาแบบ 360 องศา เพื่อแบ่งปันกับเพื่อนๆ บน Google+ หรือเพิ่มลงใน Google แผนที่ก็ได้ สำหรับให้ผู้ใช้คนอื่นๆ ทั่วโลกได้ชมทั่วกัน 


ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ 4.2 มาพร้อมสารพัดประโยชน์อีกมากมาย อาทิ (Gesture Typing) ระบบ keyboard ที่ให้คุณพิมพ์ข้อความด้วยการลากนิ้วไปตามตัวอักษร ซึ่งจะช่วยให้คุณลากนิ้วไปมา ระหว่างตัวอักษรต่างๆ ที่ต้องการพิมพ์บนแป้น ช่วยให้การพิมพ์เร็วขึ้น สนุกขึ้น และง่ายมากขึ้นสุดๆ และระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ 4.2 ยังเพิ่มการรองรับสำหรับหน้าจอแสดงผลแบบไร้สาย (Wireless Display) ซึ่งคุณสามารถรับชมภาพยนตร์, วิดีโอบน YouTube และเล่นเกมส์ต่างๆ แบบไร้สาย ผ่านการส่งสัญญาณภาพไปบนจอทีวีที่มีระบบ Miracast

เรียนรู้ฟีเจอร์ใหม่ๆ เพิ่มเติมในระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ 4.2 JellyBean ได้ที่นี่

Google Now ประโยชน์ที่เพิ่มขึ้น 
เราออกแบบ Google Now เพื่อทำให้ชีวิตง่ายขึ้น โดยการมอบข้อมูลที่ถูกต้องให้กับคุณ 

ในช่วงเวลาที่เหมาะสม ง่ายต่อการอ่านการ์ดต่างๆ ก่อนที่คุณจะมีคำถาม และได้รับผลตอบกลับที่สุดยอดมาก ดังนั้นในตอนนี้เรากำลังเพิ่มการ์ดต่างๆ มากขึ้น เพื่อให้ประโยชน์กับคุณยิ่งขึ้นไป เช่น การ์ดข้อมูลเที่ยวบิน การ์ดข้อมูลการจองร้านอาหาร การ์ดข้อมูลการยืนยันการจองโรงเเรม และการ์ดรายละเอียดการจัดส่งของ บ่อยแค่ไหนที่คุณรอ ข้อมูลต่างๆ ส่งมาทางอีเมล์ในวินาทีสุดท้าย? ครั้งต่อไปที่คุณจองโต๊ะสำหรับทานมื้อเย็น คุณจะได้รับ การแจ้งเตือนพร้อมรายละเอียดทั้งหมด โดยไม่ต้องกระดิกนิ้วเลย นอกจากนี้คุณยังจะได้รับการ์ด เกี่ยวกับสถานที่ที่น่าสนใจในบริเวณใกล้เคียง เช่น จุดถ่ายภาพที่สวยงาม เวลาการฉายภาพยนตร์ ณ โรงภาพยนตร์ หรือการแสดงคอนเสิร์ตต่างๆ จากศิลปินขวัญใจคุณ 


Nexus 7: บาง เบา และ สะดวกในการพกพา
Nexus 7 นำประสบการณ์การใช้ Google ที่ดีที่สุดมาให้คุณ ทั้ง YouTube Chrome Gmail Maps และเนื้อหาที่ยอดเยี่ยมทั้งหมดจาก Google Play มาในแบบบางเบา พร้อมแพคเกจพกพาสะดวก เหมาะมือ เพื่อให้คุณได้มีเนื้อที่มากขึ้นสำหรับทุกเนื้อหาที่คุณสามารถได้รับจาก Nexus 7 มีให้เลือก 2 ขนาด คือ ขนาด 16GB (ราคา $199) และขนาด 32GB (ราคา $249) และเราต้องการที่จะทำให้แท็บเล็ตตัวนี้ สามารถพกพาได้อย่างสบายๆ แบบมือถือทั่วไปมากขึ้น เราจึงเพิ่ม HSPA + mobile data เข้าไป ซึ่งตอนนี้ Nexus 7 ขนาด 32GB พร้อม HSPA + mobile มีไว้ให้คุณเเล้ว (ในราคา $299) สามารถทำงานผ่านผู้ให้บริการด้านเครือข่าย GSM มากกว่า 200 แห่งทั่วโลก อาทิ AT&T และ T-Mobile ในสหรัฐอเมริกา


Nexus 10: เปี่ยมด้วยประสิทธิภาพและการแบ่งบันเต็มรูปแบบNexus 10 คือ แท็บเล็ตที่ดีที่สุดสำหรับการชมภาพยนตร์หรืออ่านเเมกกาซีนต่างๆ เราต้องการสร้าง อุปกรณ์ที่ให้ความบันเทิงในระดับพรีเมี่ยม ดังนั้นเราจึงร่วมมือกับ Samsung 

Nexus 10 เป็นเเท็บเล็ตที่มีหน้าจอความละเอียดสูงที่สุดในโลก ด้วยขนาดจอ 10.055 นิ้ว สามารถ แสดงผลที่ความละเอียด 2560x1600 หรือ 300ppi ได้ นั่นคือมากกว่า 4 ล้านพิกเซลในมือเลยทีเดียว มาพร้อมเเบตเตอรี่ ที่สามารถให้ผู้ใช้ชมวิดีโอได้นานถึง 9 ชั่วโมง และอยู่ในสถานะเปิดเครื่องพร้อมใช้งาน มากกว่า 500 ชั่วโมง ด้วยชุดลำโพงสเตอริโอด้านหน้า คุณสามารถชมภาพยนตร์จาก Nexus 10 พร้อมกับ เสียงที่สุดยอด แต่สิ่งที่ทำให้ Nexus 10 โดดเด่นที่สุด ก็คือความเป็นแท็บเล็ตที่เน้นการเเบ่งบัน (Shareable) อย่างแท้จริง ด้วยระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ 4.2 คุณสามารถเพิ่มผู้ใช้หลายคน และสลับไปมาได้ทันทีจากหน้าจอ lockscreen เราเชื่อว่าทุกคนควรจะสามารถเข้าถึงไฟล์ต่างๆ ของ พวกเขา ได้อย่างรวดเร็วและง่ายดายที่สุด ทั้งอีเมล์ แอพพลิเคชั่นต่างๆ บุ๊คมาร์ค และอื่นๆ อีกมากมาย นั่นจะทำให้ทุกคน มีหน้าจอ (home screen) เป็นของตัวเอง เพลง และเเม้เเต่คะเเนนสูงสุดในเกมส์ท ี่แต่ล่ะคนเล่นได้


Google Play: ความบันเทิงที่มากกว่า 
เมื่อเร็วๆ นี้ เราได้เพิ่มความบันเทิงใหม่ๆ มากมายเป็นตัน ไว้ใน Google Play เช่น ภาพยนตร์ และ รายการทีวี จากค่าย Twentieth Century Fox ก่อนหน้าในปีนี้เราได้ขยายบริการของเรามากกว่า เพียงการให้เช่าภาพยนตร์ และตอนนี้คุณสามารถซื้อภาพยนตร์และสร้างรายการโปรดของคุณ ใน Google Play ได้เเล้ววันนี้ เรากำลังเพิ่มการจัดซื้อภาพยนตร์ไปยังประเทศอื่นๆ อีก ประกอบด้วย แคนาดา สหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส สเปนและออสเตรเลีย

เราตื่นเต้นมากในการประกาศความร่วมมือกับ 2 พันธมิตรใหม่ ซึ่งเรากำลังทำงานร่วมกับ Time อิงก์ ในการนำนิตยสารมากมายมาสู่มือคุณ อาทิ InStyle, PEOPLE TIME และอื่นๆ และเรายังได้ร่วมมือกับ Warner Music Group ที่กำลังจะนำเพลงฉบับเต็มๆ ทั้งที่อยู่ในแคตตาล็อคและที่เป็นเพลงใหม่เอี่ยม ของพวกเขามาสู่คุณเช่นกันขณะนี้เรากำลังทำงานร่วมกับทุกค่ายเพลงยักษ์ใหญ่ทั่วโลกพร้อมกับทุก
สำนักพิมพ์นิตยสารที่มีชื่อเสียงในสหรัฐฯ เช่นเดียวกันกับสำนักพิมพ์อิสระ, ศิลปินและผู้จัดพิมพ์อีกมากมาย 


ในวันที่ 13 พฤศจิกายน เราจะนำเพลงมาใส่ไว้ใน Google Play สำหรับประเทศในยุโรป คนที่อยู่ใน สหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส เยอรมัน อิตาลี และ เสปน จะสามารถซื้อเพลงต่างๆ ได้จาก Google Play Store และสามารถเพิ่มเพลงต่างๆ ไว้ในคอลเลกชั่นพิเศษได้สูงสุดถึง 20,000 เพลง แบบฟรีๆ บนหน้าสตรีมของอุปกรณ์แอนดรอยด์ หรือ ผ่านหน้าเว็บเบราว์เซอร์ เรายังได้เปิดตัวฟีเจอร์จับคู่ใหม่ ในไลน์สตรีม เป็นกระบวนการดาวน์โหลดเพลงส่วนตัวไปยัง Google Play ด้วย โดยเราจะทำการเเสกนเพลงที่คุณเลือกไว้ในคอลเล็กชั่นกับเพลงในแคตตาล็อคบน Google Play ซึ่งจะจับคู่ให้อัตโนมัติและเพิ่มไว้ใน อัลบั้มออนไลน์ของคุณ โดยไม่ต้องดาวน์โหลดใดๆ ประหยัดเวลาได้อีก ทั้งหมดนี้จะพร้อมในวันเปิดตัวในยุโรป วันที่ 13 พฤศจิกายน และสำหรับสหรัฐฯ ก็จะเปิดให้บริการในเร็วๆ นี้ ทั้งหมดนี้เป็นบริการที่ฟรี ไม่ว่าจะเป็น การให้พื้นที่ในการจัดเก็บเพลงของคุณ บริการจับคู่เพลง การซิงค์อุปกรณ์ต่างๆ ของคุณให้ และฟังเพลง ล้วนฟรีหมด 


คุณภาพที่ยอดเยี่ยม
เรายึดมั่นในการสร้างอุปกรณ์ที่ให้ความคุ้มค่าเสมอมา และเราคิดว่าอุปกรณ์ที่เปิดตัวในวันนี้ ได้ให้ความคุ้มค่ากับเงินทุกบาททุกสตางค์ของคุณ และนี่คือรายละเอียดที่คุณจะสามารถพบเจอใน Nexus 
  • Nexus 4: ขนาด 8GB ราคา $299 ขนาด 16GB ราคา$349 ปลดล็อคเรียบร้อย โดยไม่มีข้อผูกมัดใดๆ พร้อมจัดจำหน่าย ตั้งเเต่วันที่ 13 พ.ย. ใน Google Play store ใน สหรัฐอเมริกา  สหราชอาณาจักร  ออสเตรเลีย ผรั่งเศส  เยอรมัน สเปน และ แคนาดา โดยสำหรับเวอร์ชั่น 16 GB สามารถหาซื้อได้ที่ T-Mobile ในราคา $199 พร้อมข้อผูกมัดในการใช้งาน 2 ปี (คลิก ที่นี่ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม)

  • Nexus 7: ขนาด 16GB ราคา $199 และขนาด 32GB ราคา $249 พร้อมขายแล้วใน สหรัฐอเมริกา  สหราชอาณาจักร  ออสเตรเลีย  เยอรมัน  สเปน  แคนาดา และ ญี่ปุ่น ผ่านตัวเเทนจำหน่ายต่างๆ ทั้ง Gamestop  Office Depot  Office Max  Staples  และ  Wallmart

  • Nexus 7 ขนาด 32GB และ Mobile data: ในราคา $299 และปลดล็อคเรียบร้อย พร้อมขายเเล้วใน Google Play store ใน สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร  ออสเตรเลีย  ฝรั่งเศส  เยอรมัน  สเปน  และ แคนาดา

  • Nexus 10: ขนาด 16GB ราคา $399 และขนาด 32GB ราคา $499 พร้อมขายตั้งเเต่วันที่ 13 พ.ย. ใน Google Play Store ใน สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร  ออสเตรเลีย  ฝรั่งเศส  เยอรมัน  สเปน  แคนาดา และ ญี่ปุ่น ซึ่งคุณสามารถหาซื้อ Nexus 10 เวอร์ชั่น 32GB ได้จาก Walmart กว่า 2,000 สาขา ในสหรัฐอเมริกา

     Nexus เป็นอุปกรณ์ที่มากกว่าเเค่โทรศัพท์หรือแท็บเล็ต มันคือที่สุดแห่งการเชื่อมคุณและ Google เข้าด้วยกัน ทุกสิ่งที่เกี่ยวกับคุณ ทั้งด้านความบันเทิง ทุกที่ที่คุณไป ตอนนี้คุณมี Nexus ใหม่เพิ่มอีกถึง 3 รุ่น มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ (Jelly Bean) ที่ปรับปรุงขึ้นใหม่สำหรับ ความบันเทิงที่เพิ่มขึ้นอย่างไม่เคยมีมาก่อน ทุกรุ่นพร้อมแล้วให้คุณได้สัมผัสใน Google play สนามเด็กเล่นเปิดตัวเเล้ว
 

ฟรีเกมส์บน android ยอดนิยมประจำปี 2012


ปัจจุบันมี ฟรีเกมส์ ให้เลือกเล่น บนอุปกรณ์ android จำนวนมากมายมหาศาล เช่นเดียวกันกับคู่แข่งสำคัญอย่าง iOS ถึงแม้จะเป็น ฟรีเกมส์ บน android แต่คุณก็สามารถสนุนกสนานเพื่อผ่อนคลาย กับเกมส์ฟรีๆ เหล่านี้ได้ดีทีเดียว อาจจะมีโฆษณาเข้ามาให้เห็นหน่อย แต่ก็คงจะไม่เป็นเรื่องน่ากวนใจมากนัก

หลังจากที่ได้เข้าไปการจัดอันดับ ฟรีเกมส์ บน android ยอดนิยม ประจำปี 2012 จนถึงปัจจุบัน มีอันดับเปลี่ยนแปลงไปบ้าง จึงอยากจะมาแนะนำ 5 ฟรีเกมส์ ยอดนิยม ของ android มาให้ทราบกันครับ

อันดับ 1 : Angry Birds Space 

คงจะหนีไม่พ้น "เกมส์นกโกรธ" ขนาดเพิ่งเปิดตัวไปเมื่อเดือนมีนาคม ที่ผ่านมานี้เอง แต่กลับติดอันดับ 1 บน chart ของ google play ซะแล้ว ปัจจุบันมีผู้ดาวน์โหลดไปใช้บนอุปกรณ์ android มากกว่า 50 ล้านเครื่อง ติดอันดับ application ดาวน์โหลดมาก และเติบโตเร็วที่สุด ทิ้งห่าง facebook ไปถล่มทลาย สำหรับเวอร์ชั่นนี้ เป็นเวอร์ชั่น นกโกรธ บนอวกาศ ใครยังไม่เคยลองเล่นไปโหลดมาเล่นกันดูครับ แล้วจะติดจายยย



อันดับ 2 Fruit Ninja Free

เกมส์ action แนวนินจาญี่ปุ่น ที่ใช้ดาบไล่ฟัน ในกระบวนท่าต่างๆ ผลไม้่หลากชนิดที่จะโผล่ขึ้นมาบนหน้าจอ มีโหมดในการเล่นเกมส์ให้เลือก 3 mode  คือ classic mode (โหมดปกติเป็นเลเวล), zen mode (ทำคะแนนให้ได้มากที่สุดในเวลาที่กำหนด), arcade mode (คล้ายๆกับ zen mode แต่วุ่นวายมากกว่า) จุดประสงค์ของเกมส์ คือ เก็บคะแนนให้มากสุด โดยการใช้ดาบฟันผลไม้ 1 ครั้ง ให้ถูกผลไม้จำนวนเยอะที่สุด ดังนั้นจำเป็นต้องวางแผนลากจังหวะการฟันดาบของคุณให้ดี 5555



อันดับ 3 : Constantine I

ตั้งชื่อเกมส์มาจากชื่อของ จักรพรรดิคอนสแตนตินที่ 1 จักรพรรดิแห่งจักรวรรดิโรมัน เป็นเกมส์แนว action ต่อสู้ โดยใช้อาวุธอยู่สี่ชนิด (ดาบ, กระบอง, ฆ้อน, สายฟ้า) ดำเนินเรื่องไปตามเวลา หากต้องการเคลียร์เกมส์ทั้งหมดต้องใช้เวลาอย่างน้อย 40 ชม. ครับ



อันดับที่ 4 : SpeedMoto

เกมส์แข่งขันรถจักรยานยน แบบ 3D บังคับรถโดยการเคลื่อนโทรศัพท์ไปมา และกดหน้าจอเพื่อเร่งเครื่อง มีหลายสนามให้เลือกเล่น ทั้งในป่า ภูเขา หิมะ ฯลฯ



อันดับที่ 5 : Doraemon Fishing 2

ติดอันดับเกมส์ยอดนิยม บน iOS ในหลายประเทศในภูมิภาคเอเชีย พาโดเรมอน โนบิตะ ชิสุกะ ออกไปตกปลาเพื่อเก็บสะสมคะแนน กันเถอครับ

10 อันดับ app android ยอดนิยม บน google play ปี 2012

10.  Adobe Flash Player 11

UploadImage

อันดับที่ 10 ได้แก่ Adobe Flash Player 11 มาเริ่มต้นด้วยจุดเด่นของเจ้าหุ่นเขียวที่ ios ไม่มีนั้นก็คือ "Adobe Flash Player 11" สามารถเล่น เกมส์ต่างๆบน เว็บได้เลย หรือ อะไรก็ตามที่เกี่ยวข้อง สะดวกสุดๆ งานนี้แฟนๆ apple คอตกเป็นแถบ เพราะไม่สนับสนุนครับบบ


9.  Youtube

UploadImage
      
อันดับที่ 9 ได้แก่ Youtube มาถึงอันดับที่ 9 ของการจัดอันดับแล้วนะครับ ได้แก่ "Youtube" แน่นอนครับหลายๆคนชอบเข้าไปค้นหา vdo clip ดูแก้เซ็ง ดูทั้งวันทั้งคืน (ทั้งชาติ)ก้ไม่หมด เจ้า app Youtube ช่วยให้ชีวิตแฟนๆ toptenthailand ง่ายขึ้นมากเลยทีเดียวครับ


8.  Instagram

UploadImage

อันดับที่ 8 ได้แก่ Instagram หลังจากโด่งดังจนพลุแตกมาแล้วบน ios มาถึงคราวลง บนเจ้าหุ่นเขียวกัน ปรากฏว่าผลตอบรับทางฝั่งเจ้าหุ่นนี้ดีมากมาย แต่กลับกัน ทางฝั่งคู่แข่งดันตกฮวบๆๆ (ความเป็น private มันลดลง ) แต่ยังไงโดยรวมมันก็ยังมีคนเล่นเยอะอยู่ดีนั้นแหละ


7.  Google Search

UploadImage

อันดับที่ 7 ได้แก่ Google Search การที่เราจะหาข้อมูลซักครั้ง webแรกที่คุณจะนึกถึงคืออะไรละ ?? แน่นอนสำหรับทุกคน(รวมถึง ทีมงาน toptemnthailannd) ต้องถึงถึง "google" และก็ต้องเข้าไปที่เบราเซอร์ กว่าจะเข้าได้บางทีก็รู้คำตอบไปซะแล้ว ดังนั้นการที่เรามี "Google Search" ติดเครื่องไว้ทำให้สะดวกขึ้นเป็นกอง


6.  Google Maps


อันดับที่ 6 ได้แก่ Google Maps map ฟรีๆจาก google มาลงเป็นใน android (ลืมได้ไงเล่า) เอาไว้ใช้ในการเดินทางสำหรับแฟนๆ toptenthailand ที่จะเดินทางไปต่างจังหวัด หรือสถานที่ๆไม่เคยไปมาก่อน แค่จิ้มๆก็ถึงจุดหมายได้อย่างทันเวลา และประหยัด(หลงก็เปลืองน้ำมัน) ไปได้โข
UploadImage


5.  WhatsApp

UploadImage

อันดับที่ 5 ได้แก่ WhatsApp อยู่มานานรั้งอันดับไว้อย่างเหนียวแน่นไม่ยอมไปไหนกันเลยทีเดียว สำหรับ "WhatsApp" เชื่อมกับเบอร์โทรง่ายๆ เป็นที่มาของการขอเบอร์เนียนๆของหนุ่มๆ "ขอWhatsApp หน่อยครับ " แค่นี้ก็ได้เบอร์มาแว้วววว (ทีมงาน toptenthailand ไม่เคยทำนะครับ ฮาฮา) แล้วแบบนี้จะไม่ฮิตได้ไงละฮาฟฟฟ


4.  Gmail

UploadImage

อันดับที่ 4 ได้แก่ Gmail ไม่พลาดแน่นอนสำหรับ app "Gmail" ใครๆก็อยากจะใช้ เพราะเมลล์ google (ไม่งกเนื้อที่) มีระบบที่ดีมาก การป้องกันภัยก็ดี แถมคนส่วนใหญ่ไม่อยากพลาดเมลล์ที่สำคัญสำหรับงานของพวกเขา ดังนั้น "Gmail" จึงไม่พลาดที่จะขึ้นมาติดอันดับกับเรา 


3.   Google Maps Street View

UploadImage

อันดับที่ 3 ได้แก่ Google Maps Street View แน่ละใช้ os ของ google ทั้งที ก็ต้องใช้ของดีๆจากเขาด้วยนั้นก็คือ Google Maps Street View จากฟังก์ชั่นบนคอมพิมเตอร์ถูก เอาลงมาใช้ใน smart phone ใครกลัวหลงต้องรีบๆไปหามาใช้กันนะครับสะดวกมากมาย


2.  Line

UploadImage

อันดับที่ 2 ได้แก่ Line อีกหนึ่งแอ็ปที่เข้ามาติดในการจัดอันดับ toptenthailand ของเรา social network อีกตัวที่แทบจะเข้ามาแทนที่ "ว๊อด แอป" อย่างเต็มตัวเพราะด้วย sticker ต่างๆที่สุดแสนจะน่ารัก 


1.  Facebook for android

UploadImage

อันดับที่ 1 ได้แก่ Facebook for android แน่นอนแหละครับ คนที่ใช้งาน smart phone เกือบทั้งหมด ก้ซื้อเพื่อมาเล่น facebook (ไปในตัว) ทีมงาน toptenthailand ไม่แปลกใจจริงๆที่เจ้า "Facebook " จะเข้ามาที่ 1

http://borvon-biw.blogspot.com/2012/11/10-app-android-google-play-2012.html